Dave’s Island Instruments / Genesis / อเมริกา

Genesis  หรือที่เรียกกันส่วนใหญ่ตามชื่อของผู้ผลิตว่า Dave’s Island ผลิตโดย  Dave Beery ชาวอเมริกา ซึ่งมีพื้นฐานในการผลิต Steelpan มากว่า 15 ปี
เชื่อกันว่า Genesis ของDave’s Island เริ่มพัฒนามาจากถังเหล็ก 200 ลิตร (55 gallons) ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกันกับการทำ Steelpan  โดยHandpan ที่เขาผลิตมีการพัฒนามาแล้วสามรุ่นคือ

Genesis รุ่นแรกๆที่ผลิตในปี2012 มีการเคลือบผิวแบบ brass-plating

Genesis โมเดลแรกๆที่ทำการผลิต  เหล็กที่ใช้ไม่มีการผ่านกระบวนการให้ความร้อนแบบ Nitriding แต่มีการเคลือบผิวเหล็กด้วยกรรมวิธี brass-plating และ  powder-coating  มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 23-23.5 นิ้ว (59.69 ซม.) และลึก 11 นิ้ว (27.94 ซม.)  ปัจจุบันเลิกจำหน่ายแล้ว

Symphonette Quest scale รุ่นที่ผ่านกระบวนการให้ความร้อน และไม่มีการเคลือบผิว

Symphonette เป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กลงมา ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 19 นิ้ว  ผ่านกรรมวิธี hardened and tempered (หรือ nitriding)   ไม่มีการเคลือบผิว

GAIA  มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 นิ้ว

Sound Model

ในระยะแรก Dave’s Island เคยเปิดทำสเกลแบบตามสั่งได้แต่หยุดไปในปี 2014  ด้วยเหตุผลที่เค้าให้ว่าการผลิตสเกลใหม่ๆนั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนาศึกษาและวิจัยยาวนาน

ซาวน์โมเดลหลักๆในการผลิตเริ่มแรกในปี 2013 มีสามเสียงคือ

• Earth    D /    A  Bb  C  D  E  F  A
• Gypsy   E /   A  B    C  D  E  F G#
• Asia.     E /   A  C    D  E  G  A  C

และหลังจากปี 2013 ได้มีการผลิตsound โมเดลเพิ่ม ดังนี้ 

รุ่น Symphonette  19"

• Quest            A   /  D    E   F   G   A   Bb   D
• Dark Quest  A    /  C#  D  E    F   G   A     Bb  D
• Eb Earth      Eb  /   Bb  B  Db Eb  F  Gb 
• Mixolydian   F    /  Bb  C  D   Eb  F  G      Ab  Bb

รุ่น  GAIA  21"

• Prototype Sundown:  C / G Bb C D Eb F G  (celtic minor in C)

ราคาและการสั่งซื้อ

• ปัจจุบัน Genesis ราคาประมาณ $1100-$1500 ขึ้นอยู่กับเสกล ขนาด และวิธีการเคลือบผิว

• ในระยะแรกมีการเปิดรับ waiting list โดยกรอกรายละเอียดในเวปไซต์ของร้าน   แต่ปัจจุบันหยุดรับwaiting list แล้ว เนื่องจากมีจำนวนมากเกิน  และในปี 2014 ทาง Dave’s Island  จะทำการส่ง email ไปยัง waiting list เดิมเมื่อมีการผลิตเสร็จ Handpan แต่ละรุ่นสิ้นเรียบร้อยซึ่งจะมีสเกลให้เลือก  โดยผู้ที่ได้รับemail  จะต้องตอบกลับภายในเวลาหนึ่งอาทิตย์ 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

• นอกจากแฮนแพนแล้ว ในเวปไซต์ของ Dave’s Island ยังเคยมี Shell (กะทะสำเร็จรูปสำหรับคนที่ต้องการทำแฮนแพนเอง) Shell ขนาด 19นิ้ว ขายในราคา100 USD ทำจากเหล็กที่ไม่ได้ไนไตร์ด และมีอุปกรณ์อื่นๆสำหรับ handpan ขายด้วย
• พบว่า David Berry รับ ​Tune เสียงให้ Handpan อื่นๆด้วย
  
  
  
  
  

ติอตามข้อมูลข่าวสารและพูดคุยได้ที่ 

http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=41&sid=86151e5fb0345abef3ef87071c9b27acฃ

เวปไซต์หลักของร้าน

http://www.davesislandinstruments.com/Product.aspx?ProductID=252

Facebook

https://www.facebook.com/davesislandinstruments

Live Metal Art อิสราเอล

Live Metal Art  sound sculpture สัญชาติอิสราเอลแต่สร้างโดยคนญี่ปุ่น โดย Nobuya Yamaguchi เป็นศิลปินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่อิสราเอล เขาจบการศึกษาด้านประติมากรรมจาก Tamagawa University โดยเขาถนัดการสร้างงานจากเหล็ก และยังเป็นนักดนตรีที่ผลิตสตีลแพนมาก่อนด้วย

 ในปี 2013 Live Metal Art ที่  Nobuya ผลิตขึ้น ยังมีความเป็นprototype ค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นแฮนแพนที่มีคุณภาพเสียงจัดอยู่ในระดับดี มีsustain ที่ดี และมีเสียงเบสที่ปุ่มดิงที่หม่นลึกที่สุด

เชื่อกันว่าเขาผลิตมันขึ้นมาจากถังแกลลอน 200 ลิตร  และรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี2013 ได้เริ่มใช้กระบวนการไนไตร์ดกับเหล็กด้วย  มีการเชื่อม Shell ด้านบนและล่างด้วยน้อต ซึ่งต่างจากHandpan อื่นๆที่มักใช้ซิลิโคนเป็นกาวเชื่อม และมี rubber ringซึ่งเป็นซีลยางซีลระหว่างรอยต่ออีกชั้น ซึ่งเขากล่าวว่าวิธีการเชื่อมแบบนี้จะง่ายต่อการ retune เสียงมากกว่า 

 Nobuya ได้พัฒนาเสกลต่างๆหลายแบบ โมเดลล่าสุดมีการเพิ่มโน้ตอีกสองเสียงลงไปที่เปลือกด้านล่าง (กุ) โดยโน้ตสองตัวด้านล่างสามารถสร้างสเกลมิซโลเดียน  เพิ่มจากเสกลปกติได้

ด้านขนาดนั้นถือว่าค่อนข้างใหญ่ และสูง คือมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 58-60 ซม. 

ขั้นตอนการทำ heat treatment ในปี 2013 

ราคาและการสั่งซื้อ

• ราคาในปี 2013 ริ่มต้นที่ 1,650 USD  ถ้าเพิ่มโน้ตสองตัวด้านล่างต้องเพิ่มเงินอีก 200 USD  และต้องรอคิวประมาณ 4 เดือน โดยก่อนผลิตจะต้องโอนเงินมัดจำไปก่อน 800 USD
• สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงได้ที่ yamaguchi.art@gmail.com

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

• ที่อยู่ ของเวิร์คช้อบที่สามารถไปเยี่ยมชมได้   road no.4 between Zichron Yaacov to Haifa, Kibutz Ein Carmel, Israel   Tel :00972-4-9840248 050-9843045 

สามารถเยี่ยมชมเวปไซต์ของ Nobuya  ได้ที่  http://www.live-metalart.com/contact.html
ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทาง youtube ของ Nobuya ที่ https://www.youtube.com/user/NOBUYA130/videos

Disco Armonico อิตาลี

Disco Armonico แฮนแพนจากเมืองโตรอนโต ประเทศอิตาลี สร้างโดย Marco Della Ratta  ชื่อ Disco Armonico นั้นมีความหมายว่า Harmonic Disc 
ระหว่างการพัฒนา Handpan ของเขานั้น Marco ได้อัดวีดีโอการพัฒนาในทุกขั้นตอนเผยแพร่ลงYoutube ด้วย

วัสดุที่ใช้สัณนิษฐานว่าเป็นเหล็กไนไตร์ดที่ขึ้นรูปด้วยค้อน  (มีผู้เล่นเปรียบเทียบว่า เมื่อเทียบกับ Saraz แล้ว Disco ใช้เหล็กที่ค่อนข้างบางกว่า ) ราคาในปี 2013 เริ่มที่ 600 mark เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอนาคตถ้ามีการพัฒนาเสียงให้ดีขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน

ราคาและการสั่งซื้อ

• การสั่งซื้อในปี 2013 ใช้เวลาในการรอประมาณ 7-8 เดือน ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละ scale ( Akebono Scale มีราคาต่ำกว่า 1,000 Euro) 
• ติดต่อสั่งจองดิสโก้ได้โดยตรงที่เฟซบุ้ค ของ Macro https://www.facebook.com/groups/317123150464/
• ระยะแรก Marco ยังจัดส่งแฮนแพนให้ผู้ที่สั่งซื้อ แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบัน จะต้องไปรับที่อิตาลีเองเท่านั้น
• ถ้ามองหาดิสโก้มือสอง ต้องระวังเรื่องคุณภาพเสียง เพราะรุ่นแรกๆที่ผลิตยังมีเสียงที่ไม่ดีนัก

http://www.youtube.com/watch?v=Rc2APuv77co

Spacedrum ฝรั่งเศส

Spacedrum  เป็นแฮนแพนสัญชาติฝรั่งเศส ผลิตโดย  Philippe Maignaut ซึ่งเป็นหุ่นส่วนของร้าน Djoliba  ซึ่งร้านขายเครื่องดนตรีที่มีลักษณะเฉพาะในประเทศฝรั่งเศส  ผลิตจากทำจาก Stainless steel ที่ผ่านการให้ความร้อนและเคลือบwax (thermical + wax) ซึ่งคาดว่ามีความหนาน้อยกว่าเหล็กที่ใช้ผลิตแฮนแพนระดับท้อบ Sound ที่ได้ค่อนข้างออกเป็นแบบโลหะ แต่ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของสเปซดรัม  อย่างไรก็ตามเสียงที่ได้พบว่ายังไม่ค่อยเสถียรนักแต่บริษัทมีบริการจูนเสียง (retuning) ทั้งของ Spacedrumเองและกับเครื่องดนตรีตระกูลแฮนแพนทุกชนิดด้วย


Spacedrum นับว่าเป็นแฮนแพนอันแรกที่มีถึง 13 เสียงบนเปลือกด้านบนจึงมาพร้อมกับขนาดที่ค่อนข้างใหญ่  และไม่มีปุ่ม ding แต่ tonefield ตรงกลางจะเหมือนด้านข้างแทน โดยจะแบ่งรุ่นออกเป็นสามรุ่นใหญ่ๆตามจำนวนtonefield และขนาด ดังนี้

• 6 notes Spacedrum   มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 19นิ้ว หรือ 48 ซม.  หนัก 3.3กก. 
• 8 notes Spacedrum มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 นิ้ว                       หนัก 4.5 กก. 
• 8, 9, 13 notes Spacedrum มีเส้นผ่านศูนย์กลาง24นิ้ว หรือ 60 ซม. หนัก 5.2  กก.

Spacedrum รุ่นที่มี 13 โน้ต บริเวณตรงกลางจะเป็นtonefieldเสียงสูง 4 เสียงด้วยกัน

Sound Model

Sound Model มีทั้งเป็นแบบโครมาติก cromatic 13 เสียง / 8 เสียง diatonic และ pentatonic และบริษัทรับทำสเกลตามสั่งด้วย

Bb major Pentatonic Bb3  / C4 D4 F4 G4 Bb4

Hitzazkiar: C4/  C#4 E4 F4 G4 G#4 Bb4 C5

A minor scale A3 / B3 C4 D4 E4 F4 G4 A4

C Major pentatonic: G3 / A3 C4 D4 E4 G4 A4 C5

Cromatic 13 notes : C4 to C5

Deep Sky: C3 / Eb3 G3 Bb3 C4 D4 Eb4 F4

Akebono: E3 / A3 B3 C4 E4 F4 A4 B4 C5

Atlantic'O :   D3 / F3 A3 C4 D4 E4 F4 A4

ราคาและการสั่งซื้อ

• 6 notes Spacedrum 1,032.42 USD
• 8-9 notes  1,600-1,710 USD
• สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้จากเวปไซต์หลัก แต่อาจต้องรอประมาณ 6-8 เดือน
• สามารถสั่งซื้อผ่านทาง  http://metalsounds.fr/fr/  และ  http://www.djoliba.com

เวปไซต์หลักของสเปซดรัม  http://spacedrum.fr
เฟซบุ้ค https://www.facebook.com/sasmetalsounds 
พูดคุยอัพเดทและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสเปซดรัมได้ที่ http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=22

 

Bali Steel Pan อินโดนีเซีย

บาหลีสตีลแพน  

Bali Steel Pan  หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า Bali แฮนแพนสัญชาติอินโดนีเซีย ผลิตโดย  Chris Anderson, I Ketut Suda และ I Neghah Resna  โดยขั้นตอนการผลิต Bali นั้นกล่าวกันว่าเป็นงานทำมือที่ไม่ได้อาศัยเทคนิคขั้นสูงใดๆ มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์แบบพื้นเมือง วิธีการทำก็เป็นแบบดั้งเดิมด้วยการขึ้นรูปด้วยค้อน ไม่ได้ใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ไฮเทคในการผลิต   

โมเดลแรกๆก่อนจะมีการผลิตออกขายนั้นสีของเหล็กจะมีสีออก Bronze หรือ copper และมองไม่เห็น dimple ที่ชัดเจน  ไม่กี่ปีต่อมาก็มีการพัฒนาโมเดลที่มี dimple ขึ้นและมีการเคลือบผิวเพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสนิมจากวัสดุเคลือบยานยนต์( Automotive paint)และเริ่มทำการขายผ่าน Ebay เป็นหลัก โดยมีการส่งไปขายยังร้านเครื่องดนตรีในนิวยอร์ก (Santa’s Music Shop) เป็นบางส่วนด้วย  

ในปี 2014 สีของโมเดลมีสีที่เข้มขึ้นแต่ยังคาดกันว่าวัสดุที่ใช้ไม่มีการผ่านกระบวนการการให้ความร้อนแบบ Nitriding โดยมีขนาด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 58 ซม. สูง 23 ซม.

Sound Model

ปี 2014 มีสิบสองเสกลด้วยกัน โดยเสกลที่เป็นที่นิยม ได้แก่  Shang Diao และ Kokin Joshi

Shang Diao       F /  Bb C Eb F G# Bb C Eb 

Gong Diao        F /  Bb C D F G Bb C D 

Minor Pentatonic F  /  Bb C# Eb F G# Bb C# Eb

Gaku Joshi       F /  Bb C Eb F G Bb C Eb

Kokin Joshi      F /  Bb C Eb F F# Bb C Eb

Pelog       F /  Bb C E F A Bb C E

Madenda  F /  Bb D E F A Bb D E 

Bahagia   F /   Bb C D E F G Bb C

Minor Pentatonic 9   F /  Bb C# Eb F G# Bb C

Sho     F /  Bb C C# Eb F G Bb C

Ake Bono     F /  Bb C C# F F# Bb C

D Minor       D /  A C D F G A C D

ราคาและการสั่งซื้อ

• ราคาปัจจุบัน ประมาณ1,200 USD และอาจต้องรอคิวประมาณ 1 ปี สามารถสั่งซื้อได้จากเวปไซต์โดยตรงที่เวปไซต์หลัก หรือที่ Balisteelpan@gmail.com  
• สั่งซื้อจากเวปไซต์ขายเครื่องดนตรีโดยตรง ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า http://www.didgeridoo-passion.com  /  http://www.ur-art.ch
• ถ้าคุณสามารถไปบาหลีได้ แนะนำให้ลองไปที่ workshop ของ Bali ที่เมือง bangli  โดยควรทำการติดต่อโดยตรงกับผู้ผลิตก่อน

อัพเดท, พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ Bali ได้ที่ http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=25

เวปไซต์หลัก  http://www.balisteelpan.com/home 

Caisa เยอรมัน

เปลือกด้านบนของ Caisa รุ่น OM (2012) สังเกตว่าเหมือนมีรูเล็กๆอยู่รอบๆเส้นรอบวงส่วนที่แบนของโทนฟีลอยู่ด้วย

ชื่อ ไคซ่า Caisa นั้นได้มาจากเพลงเฉลิมฉลองของชาว Trinidad ต้นกำเนิด Steel drum ที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการผลิตฮังครั้งแรก   Bill Brown  ชาวเยอรมัน เป็นผู้ที่มีพื้นฐานในการผลิต Steel drum  ในนามบริษัท ‘Kaisos Steel Drums’ มาก่อน  เสียงไคซ่านั้นค่อนข้างแตกต่างจากเสียงฮัง  โดยเสียงที่ได้ค่อนข้างจะมี sound ของเหล็กสูง   Bill Brown จึงเรียก Caisa ว่า เป็นด้านกลับของสตีลดรัม (Caisa is a convex steeldrum) หรือแม้แต่ผู้เล่นบางคนยังเคยให้คำนิยามว่า Caisa นั้นเป็นเหมือนลูกผสม( Hybrid) ของ Handpan และ Steel drum

ไคซ่านั้นเป็นแฮนแพนรุ่นแรกๆที่ผลิตขึ้นต่อจากฮัง  ในด้านคุณภาพเสียงนั้น รุ่นปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่ารุ่นแรกๆมากแต่เสียงก็ยังไม่ก้องกังวานเหมือนฮัง  วัสดุก็ทำจากเหล็กที่ต่างจากฮังและไม่ได้ผ่านกระบวนการไนไตร์ดดิ้งแต่มีการเคลือบสีแบบด้านบางๆไว้แทน  

ขนาดของ Caisa นั้นมีความใหญ่แต่แบน และมีนำ้หนักค่อนข้างมาก  โดยไคซ่านั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 58-60 ซม.  สิ่งที่โดดเด่นของไคซ่ารุ่นหลังๆที่ผลิตออกมานั้นคือมีการออกแบบให้ Shell ด้านล่างต่างไปจากแฮนแพนทั่วไป ที่ด้านล่างจะมีสกรูเพื่อสอดขาตั้งได้ตรงกลาง และช่องระบายเสียงถูกออกแบบให้เป็นรัศมีรอบๆShell ซึ่งสามารถสอดมือเข้าไปจับได้    และมีรูเล็กๆอีกสามรูอยู่รอบจุดศูนย์กลางด้วย

ส่วนเปลือกด้านล่างของ Caisa รุ่น OM (2012)  มีการรีวิวว่า เปลือกด้านล่างไม่ได้ถูกจูนให้มีเสียงเฉพาะ

ขนาดของ Baby Caisa เมื่อเปรียบเทียบกับ Caisa

นอกจากนั้นยังมีการผลิต Caisa รุ่นเล็กที่เรียกว่า Baby Caisa ขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Bakpac Caisa สำหรับเดินทางโดยเฉพาะ ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 ซม.และน้ำหนักเพียง2.5 กิโลกรัม โดยผลิตออกมาสาม Sound Model คือ C-Pentatonic, C-Minor Pentatonic และ D-Pentatonic

Sound Model  

• การจูนเสียง overtone ของ Caisa นั้น เป็นแบบ octaves (8ths)  ไม่ใช่ harmonic 5ths เหมือนแฮนแพนทั่วไป ทำให้เสียงมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากแฮนแพนอย่างชัดเจน 
• รุ่นยอดนิยมของไคซ่า ได้แก่ รุ่น 440 Hz. Cosma  และ 432Hz  OM    
• บางรุ่นไม่ได้วางโน้ตแบบซิกแซก แต่วางแบบเรียงเป็นวงกลม (ซึ่งการวางแบบนี้ค่อนข้างจะทำให้เล่นได้ยากกว่า)  

เนื่องจากยังไม่เคยมีผู้รวบรวมSound Model ไว้อย่างชัดเจน ข้อมูลในส่วนนี้จึงอาจยังไม่อัพเดทเท่าที่ควร

C-Pentatonic Major                       G / A   C   D    E  G   A   C    D   E
C- Pentatonic  Minor                     G / C   D   Eb  G  Ab  C   D   Eb G
Orient                                            G / C  Db  E    F   G   Ab  B    C   D
F- Pentatonic  Minor(Ake Bono)  F / A   C    D   F    G   A    C    D   F
Balinese                                        F / A   Bb  C    E    F   A    Bb  C    E
A- Pentatonic  Minor (Ake Bono)E /  B   C    E   F    A    B   C    E
D- Pentatonic  Minor (Ake Bono)D / A   B    D    E   F# A   B     D
Cosma                                          D / A   Bb  C   D    E    F   G    A 
OM (Major)                               C# / Ab  Bb  C#  Eb  F   Ab  Bb  C# 
OM (Minor)                               C# / Ab  A  C#  Eb   E   Ab  A   C#    

ราคาและการสั่งซื้อ

• ราคาของ Caisa และ Baby Caisa นั้นเท่ากันคืออยู่ที่ประมาณ  1,100Euro(1,400 USD)
• และเคยพบว่ามีการขาย Caisa ในร้านเครื่องดนตรีใน UK  £1495 
• สามารถสั่งซื้อที่เวปไซต์ ของ Nadine Beger  ที่ http://caisa-music.com/http___www.heali ... Facts.html โดยที่เวปไซต์แจ้งไว้ว่าไม่สามารถส่งไปยังสหรัฐอเมริกาได้  

เยี่ยมชมรายละเอียดเวปไซต์ของ Caisa  ได้ ที่  http://www.caisa-music.com/http___www.caisa-music.com_/Home.html
พบปะพูดคุยอัพเดทเรื่องราวของ Caisa ได้ ที่ http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=5

ลองฟังเสียงของ OM ในยูทูบ ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=4zDuKHvOugM

ESS- Echo Sound Sculpture / Asachan / สวิสเซอร์แลนด์

Echo Sound Sculpture - ESS- นับว่าเป็นน้องใหม่สุดในบรรดา 5 ผู้สร้างระดับสุดยอด  ที่สำคัญแม้จะเป็นแฮนแพนสัญชาติสวิส แต่ ซาน (Ezahn Bueraheng) ผู้ผลิตและพัฒนา ESS นั้นเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์
ซานเริ่มต้นสร้าง Sound Sculpture ชนิดนี้ขึ้นในปี 2011 หลังจากได้เห็นนักดนตรีเปิดหมวกเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้บนถนน และเขาสามารถพัฒนาคุณภาพของเสียงให้ได้ในระดับสุดยอดภายในเวลาแค่สองปีเท่านั้น  วิธีที่เขาผลิตผลงานของตัวเองยังแตกต่างกับผู้ผลิตหน้าใหม่รายอื่นๆ โดยเขายืนยันจะไม่ขายเครื่องดนตรีรุ่นPrototypeโดยเด็ดขาด แม้จะมีความต้องการจากผู้ซื้อมากอย่างล้นหลาม 
ซานเริ่มทำการเปิดรับwaiting list  เป็นครั้งแรกในปี 2013  โดยเขาเรียกมันว่า "Asachan"
และแม้ในเวลาที่ ESS เริ่มผลิต Asachan รุ่นแรกออกมาจำหน่าย  ทั้งๆที่สามารถใช้เวลาเพื่อการผลิต Asachan ให้ได้จำนวนมากตามความต้องการ แต่ ESS ก็ยังไม่หยุดการพัฒนาคุณภาพเสียงและทดลองสร้าง Sound sculpture ใหม่ๆขึ้น เช่น Double Ru (แฮนแพนที่มีรู กุ สองด้าน และมีโน้ตทั้งสองด้าน รวม14เสียง)  ซึ่งแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์แบบศิลปิน ที่สร้างศิลปะด้วยความรักอย่างแท้จริง

Asachan สร้างขึ้นจากเหล็กที่ผ่านกระบวนการไนไตรดิ้ง (Nitrided steel sheet) โดยมีเอกลักษณ์ภายนอกที่เห็นได้ชัดคือวงแหวนสีทองสองวงรอบปุ่มดิง

Sound Model ปี 2013

• 1. ChanDhra   D / G A Bb C D Eb F G
• 2. TalaySai     D / G A Bb C# D E F G
• 3. LalanTa      D / G A B C D E F G
• 4. SahaRa      D / G Ab B C D Eb F# G
• 5. AnnaZiska C# / G# A B C# D# E F# G#

Sound Model ปี 2013-2014 (บางรุ่นเริ่มมีการเพิ่ม Tone field บริเวณ Gu sides หรือ bottom notes )

• MonDhra         D / F# A Bb C D Eb F# G + A C D bottom notes
• Longloy           D / G A Bb C D E F G 
• SalaDin           D / G A C D Eb F# G A+ C D bottom notes 
• SaBye             E / G A B C D E F# G
• MaHara          D / G Ab  B C D Eb F G

ราคาและการสั่งซื้อ

• Asachan ปี 2013 มีราคาประมาณ 1600 Euro ( 72,000 บาท พร้อม Softcase)
• ค่าขนส่งมายังประเทศไทยตกราว 6,000 บาท และต้องเสียค่าภาษีนำเข้าประมาณ 2,000 บาท
• ตั้งแต่ปี 2013 ยังไม่มีการเปิดรับ Waiting list จากภายนอก 
• สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ 

https://www.facebook.com/groups/252055334950496/
http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=33
http://www.youtube.com/user/EchoSoundSculpture?feature=watch

• แม้จะไม่มีการเปิดรับWaiting List แต่ซานกล่าวว่า ถ้าคุณมีความอดทนและรัก Sound Sculpture ชิ้นนี้มากพอ คุณมีโอกาสที่จะได้สัมผัสมันอย่างแน่นอน 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

• Soft case ของ ESS นับว่าเป็นแบบแรกที่ออกแบบมาให้ตั้งได้ ไม่เหมือนแบบก่อนหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงกลม
• คุณซาน เป็นทั้งนักดนตรีและศิลปินที่ทำงาน Painting และ Drawing ด้วย สามารถชมผลงานของเขาได้ที่ www.ezahnbueraheng.com

PanArt / Hang ฮัง / สวิสเซอร์แลนด์

PANArt ก่อตั้งโดย ชาวสวิสเซอร์แลนด์สองคนคือ  Felix Rohner และ Sabina Schärer  ทั้งสองมีพื้นฐานด้านการผลิต Steel Pan  มาก่อน  ในปีค.ศ.1998  เขาได้พบกับ Reto Weber นักดนตรีJazz ที่เดินทางไปทั่วโลก Reto Weber บอกพวกเขาว่าพวกเขาน่าจะสร้างเครื่องดนตรีชนิดใหม่ขึ้นมาโดยเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นด้วยมือแบบGhatam แต่สามารถสร้างเสียงได้หลากหลายโน้ตขึ้น  จุดเริ่มต้นในการคิดค้นและพัฒนาSound Sculpture ที่มหัศจรรย์ชิ้นนี้ก็ได้เริ่มขึ้น

Hang อันแรกนั้นตั้งอยู่บนพื้น และ Ghatam วางอยู่ข้างๆ

 Hang อันแรกนั้นมีขนาดค่อนสูงและใหญ่มาก สร้างโดยการนำSteel Panสองอันมาประกบกันมีลักษณะคล้ายลูกโลกที่มีรูที่สร้างเสียงเบสคล้ายGhatamอยู่ด้านล่าง(สังเกตุได้ว่าที่ตำแหน่งDingในHang อันแรกนั้นน่าจะเป็นโทนฟัลด์เสียงสูง) แต่ด้วยขนาดและสัดส่วนที่ไม่เหมาะกับการวางบนตักแล้วเล่นมันจึงได้ค่อยๆถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงและสร้างเสียงเบสโดยกลับด้านการสร้างปุ่มเสียงและนำมาไว้ด้านบนสุด(ซึ่งเรียกว่าDing)

หลังจากนั้นบริษัท Panart จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นในปี 2000 และนับจนปัจจุบันได้มีการผลิต Hang ออกมาหลายรุ่นแล้วด้วยกัน ยกตัวอย่างดังนี้

ฮัง ในแต่ละเจนเนอเรชั่นจะมีเสียงและลูกเล่นต่างๆ ที่แตกต่างกัน 

First Generation

ผลิตในช่วงปี 2003-2005  ในช่วงนี้ ได้มีการผลิตฮังที่มีเสกลต่างกันกว่า 45 แบบ มีชื่อเรียกที่ได้แรงบันดาลใจจาก รากศัพท์ของ ดนตรีในตำนาน  ethnomusicological  เช่น   Aeolian, Ake Bono, Hijaz, Melog, Pygmy, และ Zhi Diao  โน้ตรอบๆดิงจะมีด้วยกัน เจ็ดถึงแปดช่วงเสียง  แต่ละชิ้นจะมีชื่อรุ่นและชื่อผู้ผลิตติดไว้ภายในด้านล่างของปุ่มดิงด้วย  วัสดุทำจากเหล็กไนไตร์ด  เสียงดิงเริ่มที่  F3, E3 และ Eb3. โทนฟีลด์ในรุ่นแรก(First Generation) มีการเรียงตัวเป็นรัศมีออกมาจากดิง

Gudu Hang (2004-2007)

ที่ด้าน Gu dide มีการเพิ่มรู อีกหนึ่งรู เรียกว่า Du  เพื่อเพิ่มเสียงresonance ซึ่งรูนี้สามารถปิดได้โดยใช้แผ่นแม่เหล็ก  และที่รูGu จะมีอุปกรณ์ที่ทำจากไม้อีกอันมาต่อเข้าได้ซึ่งจะทำให้เกิด เสียงประสานที่เสียง fifth ที่ต่ำกว่า 

Second Generation (2006-2007)

เริิ่มผลิตในปี 2006 รุ่นนี้เริ่มมีการเคลือบผิวด้วย ทองเหลือง(annealed brass)  บนปุ่มดิงและเส้นรอบวง แม้จะสร้างสเกลหลายๆแบบ แต่เสียงดิงก็จำกัดให้เป็นเสียง D3 เท่านั้น  โทนฟีลด์ในทุกรุ่นจะมีเจ็ดเสียง แต่ทุกรุ่นจะประกอบด้วยเสียง A ต่ำและสูง (A3 และ A4)และ Dสูง (D4) เหมือนกันหมด  โทนฟีลในรุ่นนี้มีลักษณะเป็นวงรี   รุ่นปี 2007มีการเปลี่ยนรูปแบบการวางโทนฟีลด์ โดยจะเรียงตัวแทยง 45 องศาจากรัศมีที่ลากมาจากดิง  ในรุ่นนี้ไม่มีชื่อเรียกซาวน์ดโมเดลเป็นพิเศษแต่จะเรียกเป็น serial number แทน

Integral Hang (2008)

เริิ่มผลิตในปี 2006 serial number ในรุ่นนี้จะขึ้นต้นด้วยตัว H และมีเพียงสเกลเดียวเท่านั้น คือ D3 Ding, A3, Bb3, C4, D4, E4, F4, A4) 
รูที่ กุ ถูกปรับให้เป็นวงรี เพื่อทำให้เกิดเสียง D5, F5 และ F#5 เมื่อตีบริเวณรอบๆกุ (gu neck) 
รอบปุ่มดิง เคลือบด้วยทองเหลือง  และดูเหมือนบริเวณรอยต่อระหว่างส่วนที่ราบเรียบของดิงและแต่ละโน้ต จะถูกพัฒนาให้ต่างจากเดิมซึ่งทำให้การเชื่อมระหว่างโน้ตนุ่มนวลขึ้นด้วย
เริ่มมีโลโก้ Serial Number ลายเซ็นผู้ผลิต วันผลิต ติดไว้ที่บริเวณริมด้านกุ
เฟลิกซ์และซบรินา เริ่มเปิดเผยแนวคิดในการผลิตแฮงรุ่นนี้ ซึ่งเขียนไว้ใน จดหมายจากHangbauhaus ว่า การพัฒนาและผลิตของเราไปไกลกว่าดนตรีสมัยใหม่ทั้วไป เราการศึกษา ฝึกฝนและเล่นอย่างจริงจัง การเล่นแฮงจะนำไปสู่อิสระภาพ การสื่อสารอย่างลึกซึ้งซึ่งจะถูกค้นพบก็ต่อเมื่อปราศจากความกดดันและข้อบังคับ ... 

Free Integral Hang

เริิ่มผลิตในปี 2010- 2013   มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้านโครงสร้างคือ

• ไม่มีการเคลือบทองเหลืองตรงรอยต่อรอบวงระหวางดิงและกุ
• ไม่มีการเคลือบทองเหลืองที่ปุ่มดิง
• มีการสร้างปุ่มเป็นรูปโดมสามอัน   (double offset  หรือ triple-dome)
• มีการจูนเสียงด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ 

อย่างไรก็ตามผู้ผลิตไม่ได้เน้นไปที่การจูนเสียงให้สมบูรณ์แบบตามหลักคณิตศาสตร์เหมือนเดิมแต่คำนึงถึงผลของเสียงโดยรวมทั้งหมดมากกว่า
ช่วงเสียงของดิงมีความหลากหลายในโทน D3 มากขึ้น แต่เสียงรอบๆดิงยังคงเหมือนรุ่น Intrigral Hang อยู่

GuBal

Gubal  คือเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้าย Handpan แต่มีรู Gu อยู่ข้างบนตามตำแหน่งding เดิม  และจะมีปุ่มขนาดใหญ่อยู่ข้างล่าง ซึ่งเรียกว่า Gugel ซึ่งให้เสียงต่ำถึงระดับ Eb2  ให้เสียงที่ค่อนข้างแตกต่างจาก Handpan อย่างชัดเจน

รอบๆรูGu ซึ่งเรียกว่า Ringding ให้เสียงEb3, Bb3และEb4.  และประกอบไปด้วย7 tonefields คือเสียง Bb3, C4, Db4, Eb4, F4, G4 และ Bb4

http://www.youtube.com/watch?v=_XAlf1pFCEw

ขนาด

• 2nd generation  มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ   60 cm, สูง 25.4 cm.
• Free Integral Hang เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 52 cm, สูง 24 cm.

ราคาและวิธีการสั่งซื้อ  

• ราคาขาย Hang ในระยะแรกเริ่มอยู่ที่ 700-1,000 USD  ผู้ที่ต้องการต้องเขียนจดหมายไปที่บริษัทแล้วรอจดหมายตอบ เพื่อเชิญไปเลือก Hang ที่บริษัทที่กรุงเบรินโดยเฉพาะ ไม่มีการสั่งซื้อและส่งให้ทางไปรษณีย์
• ราคาที่มีการซื้อขาย Hang ในอีเบย์เคยสูงถึงกว่า 10,000 USD  
• Free Intregral Hang ราคาประมาณ  2,400 CHF (ประมาณ 89,000 บาท)
• ไม่มีการประกาศการขาย Free Integral Hang ตั้งแต่ปี 2013 ที่เริ่มผลิตและขายGubal
• ปัจจุบัน Gubal  ราคาประมาณ 2400 Euro (ประมาณ 107,000 บาท)
• ในปี 2013 จำหน่าย Gubalให้เฉพาะคนที่มี Free intrigral Hang อยู่แล้ว หรือเลือกจากผู้ที่ต้องการ Free Intrigral Hang ที่ส่งจดหมายมาที่บริษัท  ซึ่งผู้ซื้อต้องมาเลือกเครื่องดนตรีที่กรุงเบรินด้วยตนเองเท่านั้น เช่นเดียวกับการสั่งซื้อ Hang ในอดีต
• ติดตามการสั่งซื้อของปี2014 ได้ที่นี่  www.gubal.ch หรือ  http://www.hangblog.org/information-about-buying-a-gubal/ 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

• จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการพูดถึงเรื่องราวของแพนอาร์ตทั้งในแง่ดีและแง่ลบ โดยเฉพาะเรื่องการจดลิขสิทธ์การผลิต  
• ในปี2014 PANArt เริ่มพยายามทำการจำหน่ายวัสดุเหล็กไนไตร์ดดิ้งที่จดลิขสิทธิ์แล้ว ซึ่งเรียกว่า "Pang"  ต่อผู้ผลิตรายย่อยบางราย

อ่านและดูเพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=3n3JTASbNxA
http://www.swissinfo.ch/eng/culture/Life-changing,_a_chimera_or_just_a_drum_.html?cid=38515012

http://www.hangblog.org/panart/Booklet_englisch_GzD1.pdf

http://www.hangblog.org/the-hang-lexicon/