ESS- Echo Sound Sculpture / Asachan / สวิสเซอร์แลนด์




Echo Sound Sculpture - ESS- นับว่าเป็นน้องใหม่สุดในบรรดา 5 ผู้สร้างระดับสุดยอด  ที่สำคัญแม้จะเป็นแฮนแพนสัญชาติสวิส แต่ ซาน (Ezahn Bueraheng) ผู้ผลิตและพัฒนา ESS นั้นเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์
ซานเริ่มต้นสร้าง Sound Sculpture ชนิดนี้ขึ้นในปี 2011 หลังจากได้เห็นนักดนตรีเปิดหมวกเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้บนถนน และเขาสามารถพัฒนาคุณภาพของเสียงให้ได้ในระดับสุดยอดภายในเวลาแค่สองปีเท่านั้น  วิธีที่เขาผลิตผลงานของตัวเองยังแตกต่างกับผู้ผลิตหน้าใหม่รายอื่นๆ โดยเขายืนยันจะไม่ขายเครื่องดนตรีรุ่นPrototypeโดยเด็ดขาด แม้จะมีความต้องการจากผู้ซื้อมากอย่างล้นหลาม 
ซานเริ่มทำการเปิดรับwaiting list  เป็นครั้งแรกในปี 2013  โดยเขาเรียกมันว่า "Asachan"
และแม้ในเวลาที่ ESS เริ่มผลิต Asachan รุ่นแรกออกมาจำหน่าย  ทั้งๆที่สามารถใช้เวลาเพื่อการผลิต Asachan ให้ได้จำนวนมากตามความต้องการ แต่ ESS ก็ยังไม่หยุดการพัฒนาคุณภาพเสียงและทดลองสร้าง Sound sculpture ใหม่ๆขึ้น เช่น Double Ru (แฮนแพนที่มีรู กุ สองด้าน และมีโน้ตทั้งสองด้าน รวม14เสียง)  ซึ่งแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์แบบศิลปิน ที่สร้างศิลปะด้วยความรักอย่างแท้จริง





Asachan สร้างขึ้นจากเหล็กที่ผ่านกระบวนการไนไตรดิ้ง (Nitrided steel sheet) โดยมีเอกลักษณ์ภายนอกที่เห็นได้ชัดคือวงแหวนสีทองสองวงรอบปุ่มดิง




Sound Model ปี 2013
  • 1. ChanDhra   D / G A Bb C D Eb F G
  • 2. TalaySai     D / G A Bb C# D E F G
  • 3. LalanTa      D / G A B C D E F G
  • 4. SahaRa      D / G Ab B C D Eb F# G
  • 5. AnnaZiska C# / G# A B C# D# E F# G#


Sound Model ปี 2013-2014 (บางรุ่นเริ่มมีการเพิ่ม Tone field บริเวณ Gu sides หรือ bottom notes )
  • MonDhra         D / F# A Bb C D Eb F# G + A C D bottom notes
  • Longloy           D / G A Bb C D E F G 
  • SalaDin           D / G A C D Eb F# G A+ C D bottom notes 
  • SaBye             E / G A B C D E F# G
  • MaHara          D / G Ab  B C D Eb F G

ราคาและการสั่งซื้อ

  • Asachan ปี 2013 มีราคาประมาณ 1600 Euro ( 72,000 บาท พร้อม Softcase)
  • ค่าขนส่งมายังประเทศไทยตกราว 6,000 บาท และต้องเสียค่าภาษีนำเข้าประมาณ 2,000 บาท
  • ตั้งแต่ปี 2013 ยังไม่มีการเปิดรับ Waiting list จากภายนอก 
  • สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ 
https://www.facebook.com/groups/252055334950496/
http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=33
http://www.youtube.com/user/EchoSoundSculpture?feature=watch

  • แม้จะไม่มีการเปิดรับWaiting List แต่ซานกล่าวว่า ถ้าคุณมีความอดทนและรัก Sound Sculpture ชิ้นนี้มากพอ คุณมีโอกาสที่จะได้สัมผัสมันอย่างแน่นอน 





เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • Soft case ของ ESS นับว่าเป็นแบบแรกที่ออกแบบมาให้ตั้งได้ ไม่เหมือนแบบก่อนหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงกลม
  • คุณซาน เป็นทั้งนักดนตรีและศิลปินที่ทำงาน Painting และ Drawing ด้วย สามารถชมผลงานของเขาได้ที่ www.ezahnbueraheng.com

PanArt / Hang ฮัง / สวิสเซอร์แลนด์

PANArt ก่อตั้งโดย ชาวสวิสเซอร์แลนด์สองคนคือ  Felix Rohner และ Sabina Schärer  ทั้งสองมีพื้นฐานด้านการผลิต Steel Pan  มาก่อน  ในปีค.ศ.1998  เขาได้พบกับ Reto Weber นักดนตรีJazz ที่เดินทางไปทั่วโลก Reto Weber บอกพวกเขาว่าพวกเขาน่าจะสร้างเครื่องดนตรีชนิดใหม่ขึ้นมาโดยเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นด้วยมือแบบGhatam แต่สามารถสร้างเสียงได้หลากหลายโน้ตขึ้น  จุดเริ่มต้นในการคิดค้นและพัฒนาSound Sculpture ที่มหัศจรรย์ชิ้นนี้ก็ได้เริ่มขึ้น
Hang อันแรกนั้นตั้งอยู่บนพื้น และ Ghatam วางอยู่ข้างๆ

 Hang อันแรกนั้นมีขนาดค่อนสูงและใหญ่มาก สร้างโดยการนำSteel Panสองอันมาประกบกันมีลักษณะคล้ายลูกโลกที่มีรูที่สร้างเสียงเบสคล้ายGhatamอยู่ด้านล่าง(สังเกตุได้ว่าที่ตำแหน่งDingในHang อันแรกนั้นน่าจะเป็นโทนฟัลด์เสียงสูง) แต่ด้วยขนาดและสัดส่วนที่ไม่เหมาะกับการวางบนตักแล้วเล่นมันจึงได้ค่อยๆถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงและสร้างเสียงเบสโดยกลับด้านการสร้างปุ่มเสียงและนำมาไว้ด้านบนสุด(ซึ่งเรียกว่าDing)

หลังจากนั้นบริษัท Panart จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นในปี 2000 และนับจนปัจจุบันได้มีการผลิต Hang ออกมาหลายรุ่นแล้วด้วยกัน ยกตัวอย่างดังนี้


ฮัง ในแต่ละเจนเนอเรชั่นจะมีเสียงและลูกเล่นต่างๆ ที่แตกต่างกัน 

First Generation

ผลิตในช่วงปี 2003-2005  ในช่วงนี้ ได้มีการผลิตฮังที่มีเสกลต่างกันกว่า 45 แบบ มีชื่อเรียกที่ได้แรงบันดาลใจจาก รากศัพท์ของ ดนตรีในตำนาน  ethnomusicological  เช่น   Aeolian, Ake Bono, Hijaz, Melog, Pygmy, และ Zhi Diao  โน้ตรอบๆดิงจะมีด้วยกัน เจ็ดถึงแปดช่วงเสียง  แต่ละชิ้นจะมีชื่อรุ่นและชื่อผู้ผลิตติดไว้ภายในด้านล่างของปุ่มดิงด้วย  วัสดุทำจากเหล็กไนไตร์ด  เสียงดิงเริ่มที่  F3, E3 และ Eb3. โทนฟีลด์ในรุ่นแรก(First Generation) มีการเรียงตัวเป็นรัศมีออกมาจากดิง



Gudu Hang (2004-2007)

ที่ด้าน Gu dide มีการเพิ่มรู อีกหนึ่งรู เรียกว่า Du  เพื่อเพิ่มเสียงresonance ซึ่งรูนี้สามารถปิดได้โดยใช้แผ่นแม่เหล็ก  และที่รูGu จะมีอุปกรณ์ที่ทำจากไม้อีกอันมาต่อเข้าได้ซึ่งจะทำให้เกิด เสียงประสานที่เสียง fifth ที่ต่ำกว่า 


Second Generation (2006-2007)

เริิ่มผลิตในปี 2006 รุ่นนี้เริ่มมีการเคลือบผิวด้วย ทองเหลือง(annealed brass)  บนปุ่มดิงและเส้นรอบวง แม้จะสร้างสเกลหลายๆแบบ แต่เสียงดิงก็จำกัดให้เป็นเสียง D3 เท่านั้น  โทนฟีลด์ในทุกรุ่นจะมีเจ็ดเสียง แต่ทุกรุ่นจะประกอบด้วยเสียง A ต่ำและสูง (A3 และ A4)และ Dสูง (D4) เหมือนกันหมด  โทนฟีลในรุ่นนี้มีลักษณะเป็นวงรี   รุ่นปี 2007มีการเปลี่ยนรูปแบบการวางโทนฟีลด์ โดยจะเรียงตัวแทยง 45 องศาจากรัศมีที่ลากมาจากดิง  ในรุ่นนี้ไม่มีชื่อเรียกซาวน์ดโมเดลเป็นพิเศษแต่จะเรียกเป็น serial number แทน

Integral Hang (2008)

เริิ่มผลิตในปี 2006 serial number ในรุ่นนี้จะขึ้นต้นด้วยตัว H และมีเพียงสเกลเดียวเท่านั้น คือ D3 Ding, A3, Bb3, C4, D4, E4, F4, A4) 
รูที่ กุ ถูกปรับให้เป็นวงรี เพื่อทำให้เกิดเสียง D5, F5 และ F#5 เมื่อตีบริเวณรอบๆกุ (gu neck) 
รอบปุ่มดิง เคลือบด้วยทองเหลือง  และดูเหมือนบริเวณรอยต่อระหว่างส่วนที่ราบเรียบของดิงและแต่ละโน้ต จะถูกพัฒนาให้ต่างจากเดิมซึ่งทำให้การเชื่อมระหว่างโน้ตนุ่มนวลขึ้นด้วย
เริ่มมีโลโก้ Serial Number ลายเซ็นผู้ผลิต วันผลิต ติดไว้ที่บริเวณริมด้านกุ
เฟลิกซ์และซบรินา เริ่มเปิดเผยแนวคิดในการผลิตแฮงรุ่นนี้ ซึ่งเขียนไว้ใน จดหมายจากHangbauhaus ว่า การพัฒนาและผลิตของเราไปไกลกว่าดนตรีสมัยใหม่ทั้วไป เราการศึกษา ฝึกฝนและเล่นอย่างจริงจัง การเล่นแฮงจะนำไปสู่อิสระภาพ การสื่อสารอย่างลึกซึ้งซึ่งจะถูกค้นพบก็ต่อเมื่อปราศจากความกดดันและข้อบังคับ ... 


Free Integral Hang

เริิ่มผลิตในปี 2010- 2013   มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยด้านโครงสร้างคือ
  • ไม่มีการเคลือบทองเหลืองตรงรอยต่อรอบวงระหวางดิงและกุ
  • ไม่มีการเคลือบทองเหลืองที่ปุ่มดิง
  • มีการสร้างปุ่มเป็นรูปโดมสามอัน   (double offset  หรือ triple-dome)
  • มีการจูนเสียงด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ 
อย่างไรก็ตามผู้ผลิตไม่ได้เน้นไปที่การจูนเสียงให้สมบูรณ์แบบตามหลักคณิตศาสตร์เหมือนเดิมแต่คำนึงถึงผลของเสียงโดยรวมทั้งหมดมากกว่า
ช่วงเสียงของดิงมีความหลากหลายในโทน D3 มากขึ้น แต่เสียงรอบๆดิงยังคงเหมือนรุ่น Intrigral Hang อยู่



GuBal


Gubal  คือเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้าย Handpan แต่มีรู Gu อยู่ข้างบนตามตำแหน่งding เดิม  และจะมีปุ่มขนาดใหญ่อยู่ข้างล่าง ซึ่งเรียกว่า Gugel ซึ่งให้เสียงต่ำถึงระดับ Eb2  ให้เสียงที่ค่อนข้างแตกต่างจาก Handpan อย่างชัดเจน
รอบๆรูGu ซึ่งเรียกว่า Ringding ให้เสียงEb3, Bb3และEb4.  และประกอบไปด้วย7 tonefields คือเสียง Bb3, C4, Db4, Eb4, F4, G4 และ Bb4




ขนาด

  • 2nd generation  มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ   60 cm, สูง 25.4 cm.
  • Free Integral Hang เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 52 cm, สูง 24 cm.

ราคาและวิธีการสั่งซื้อ  
  • ราคาขาย Hang ในระยะแรกเริ่มอยู่ที่ 700-1,000 USD  ผู้ที่ต้องการต้องเขียนจดหมายไปที่บริษัทแล้วรอจดหมายตอบ เพื่อเชิญไปเลือก Hang ที่บริษัทที่กรุงเบรินโดยเฉพาะ ไม่มีการสั่งซื้อและส่งให้ทางไปรษณีย์
  • ราคาที่มีการซื้อขาย Hang ในอีเบย์เคยสูงถึงกว่า 10,000 USD  
  • Free Intregral Hang ราคาประมาณ  2,400 CHF (ประมาณ 89,000 บาท)
  • ไม่มีการประกาศการขาย Free Integral Hang ตั้งแต่ปี 2013 ที่เริ่มผลิตและขายGubal
  • ปัจจุบัน Gubal  ราคาประมาณ 2400 Euro (ประมาณ 107,000 บาท)
  • ในปี 2013 จำหน่าย Gubalให้เฉพาะคนที่มี Free intrigral Hang อยู่แล้ว หรือเลือกจากผู้ที่ต้องการ Free Intrigral Hang ที่ส่งจดหมายมาที่บริษัท  ซึ่งผู้ซื้อต้องมาเลือกเครื่องดนตรีที่กรุงเบรินด้วยตนเองเท่านั้น เช่นเดียวกับการสั่งซื้อ Hang ในอดีต
  • ติดตามการสั่งซื้อของปี2014 ได้ที่นี่  www.gubal.ch หรือ  http://www.hangblog.org/information-about-buying-a-gubal/ 



เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการพูดถึงเรื่องราวของแพนอาร์ตทั้งในแง่ดีและแง่ลบ โดยเฉพาะเรื่องการจดลิขสิทธ์การผลิต  
  • ในปี2014 PANArt เริ่มพยายามทำการจำหน่ายวัสดุเหล็กไนไตร์ดดิ้งที่จดลิขสิทธิ์แล้ว ซึ่งเรียกว่า "Pang"  ต่อผู้ผลิตรายย่อยบางราย


อ่านและดูเพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=3n3JTASbNxA
http://www.swissinfo.ch/eng/culture/Life-changing,_a_chimera_or_just_a_drum_.html?cid=38515012

Pantam / SPb / รัสเซีย


SPb คือหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ให้เสียงดีที่สุดในห้าอันดับแฮนแพนที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน(2014)  โดยมีผู้สร้างหลักคือ ‘Victor Levinson’ ชาวรัสเซีย  เริ่มผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2011  คำว่า SPb นั้นย่อมาจาก Saint PetersBourg เมืองที่เขาอยู่นั่นเอง  ส่วนชื่อ Pantam ซึ่งเป็น Family name นั้น Victor กล่่วว่าเป็นชื่อที่เขาได้รับหลังจากเดินทางไปประเทศอิสราเอลในปี2013 โดยมาจากคำว่า  Pan+Ghatam ( Ghatam  คือ เครื่องดนตรีพื้นเมืองโบราณที่ทำจากดินเผา รูปร่างคล้ายไห มีถิ่นกำเนิดในแถบอินเดียใต้ )







SPb  สร้างจากเหล็กไนไตร์ดเช่นเดียวกับฮัง แม้จะเป็นหนึ่งในประติมากรรมทางเสียงที่ดีที่สุดแต่ Victor เรียกมันว่าก้อนเหล็กธรรมดา  



Sound Model 

A Aeolian: (D) A B C D E F G A C 
C Harmonic minor: (G) B C D Eb F G Ab C D
Db Mystic 7: Db) Ab A Db Eb E Ab B
D Mystic 7: (D) A Bb D E F A C
F Integral: (F) - C Db Eb F G Ab C Db Eb
G Harmonic minor: (D) A Bb C D Eb F# G A C
Harmonic Minor: G C D Eb F G Ab B C D 
Harmonic minor 9: not known yet
Hijazkiar 9: (G) C C# E F G Ab B C D
Hijaz: (D) A Bb C# D E F G A 
Kumo: (C) F G Ab C Db Eb F G
Kurd: (D) A Bb C D E F G A
Kurd9: (D) A Bb C D E F G A C
Pygmy: (C) F G Ab D Eb F G Ab
Raga Desya Todi: (Db) F Ab Bb C Db Eb F Ab
Shiraz: 
not known yet
Unnamed scale: (G) B C D Eb F G Ab C D.
Unnamed scale: (D) A Bb C D Eb F# G A C
Unnamed scale: G - B C D Eb F G Ab C D
Unnamed scale: D - A B C D E F G# A C
Unnamed scale: C# - G# B C# D# E F# G# B
Unnamed scale: (D) G A B D E F# G A 
Unnamed scale: (D) G Bb D E F G C
Unnamed scale: (D) A C D E F G A C D.

การสั่งซื้อและราคา

  • การสั่งซื้อ SPb ในปัจจุบัน วิคเตอร์จะทำการจับสลากผู้โชคดีจาก waiting list และผู้โชคดี ต้องเดินทางไปรับSPb ที่ Saint Petersburg ด้วยตนเองเพียงเท่านั้น
  • ราคาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,350 - 1,700 EUR (77,00บาท)   บางข้อมูลให้ว่าขึ้นอยู่กับจำนวนโน้ตและช่วงเวลาที่จะได้รับ ซึ่งผู้ได้รับเลือกต้องคิดถึงค่าเดินทางและค่าวีซ่าที่ต้องใช้รวมอยู่ด้วย
  • ยังไม่มีการให้คิว waiting list อย่างเป็นทางการ ถ้าคุณสนใจSPb ก็สามารถติดต่อกับวิคเตอร์ได้ ทาง account ของเขาผ่าน ยูทูบ แต่ยังไงก็ตาม อาจไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน

ขนาด

  •  ประมาณ 54-55cm  ขนาดพร้อม case  57cmสูง 26cm


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • วิคเตอร์เป็นหนึ่งในคนที่เปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลในการสร้างแฮนแพนให้กับผู้อื่นมากที่สุด และยังอณุญาตให้เยี่ยมชมการผลิตถึงที่ด้วย



Bellart / The Bells / เสปน


เบลล์ (Bells )สร้างโดย ‘Luis Martin Eguiguren Garrido’  ชาวสเปนในนามบริษัท Bellart Bells
เป็นหนึ่งในท้อปไฟฟว์ของผู้ผลิตแฮนแพนที่มีคุณภาพสูงสุด และเป็นบริษัทแรกๆที่เริ่มผลิตเครื่องดนตรีชิ้นนี้ขึ้นมา โดยในปัจจุบัน เบลล์ที่ออกขายประมูลในอีเบย์มีราคาพอๆกันกับฮัง เลยทีเดียว


วัสดุที่ใช้เป็นเหล็กที่ผ่านกระบวนการการให้ความร้อนแบบสูง (High temperature treatment) ซึ่งคาดว่าในแต่ละรุ่นที่ผลิตมามีการใช้วัสดุและกระบวนการให้ความร้อนที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละรุ่นมีผิวสัมผัส สี และเสียงที่ต่างกันด้วย 

ผู้เล่น Bells พูดถึง Bells ในแต่ละรุ่นดังนี้

  • First Generation(V.1)  ที่ผลิตออกมารุ่นแรกนั้นยังมีเสียงที่ไม่เสถียรมากนัก เหล็กมีพื้นผิวสีเทาอมฟ้าและดูเหมือนมีการเคลือบใสที่ปุ่ม Dingหรือ Central note 



  • Second Generation(V.2)  เช่น Magic hour  เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาคุณภาพเสียงขึ้นมาจนเทียบเท่า Hang เหล็กจะมีทั้งพื้นผิวสีเหลืองทองและสีเทาอมฟ้า  ผิวสัมผัสคล้ายเซรามิค


  • Third Gen.(V.3) นั้นยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดมาก แต่พูดกันว่าอาจไม่ได้ใช้กระบวนการNitriding ในการผลิต


  • Whimfire/Whimfire Natur(V.4)  เป็นรุ่นที่สีเหลือบเป็นเกลียวซึ่งคาดว่าเกิดจากกระบวนการการให้ความร้อนที่ต่างจากการ Nitriding คาดว่า รุ่น Whimfire Natur นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาจากสนิมที่เกิดจากรุ่น Whimfire
รุ่น Whimfire  (432Hz)

  • Premier (V.5) เช่น Jibuk เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ Bellart มีสีออกเทา  ที่รอยต่อของขอบกะทะทั้งสองใบมี rubber ring(ยางสีดำ)หุ้มเพื่อทำหน้าที่กันรอยขีดข่วน



รุ่น Premier
มีโลโก้เบลอยู่บนด้าน Gu


Sound model

 sound model แบ่งเป็นรุ่นต่างๆคือ Premiere, Whimfire Protus, Natur 
โดยจะมีเสียงTonefield 7-8 เสียง   เสียงดิงถูกสร้างที่ D และ G เป็นหลัก โดยมีผู้รวบรวมสเกลต่างๆในกระทู้จาก Handpan.org ดังนี้ 

Bells Aeolian :       ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Awake:         D/F,A,A#,C,D,F,A
Bells Aware:          D/F,A,A#,C,D,E,A
Bells Bhinna          D/ A C D D# F# G A
Bells Blues            D/ A C D D# E G A
Bells Canto Central F: ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Chad Gayo:   ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Dominant 7   D/ A C D E F G A
Bells Dorian:          ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Genus:           ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Goonkali:       G/ C Db F G Ab C Db F
Bells Gowleeswari: D/ A A# D F A A# D
Bells Insen             D/ A Bb D E F G A
Bells Inuit:             ยังไม่ทราบแน่ชัด 
Bells Jibuk             D/ G A B C D E F G
Bells Kaffa:            ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Kapijingla:     ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Kedaram:      D/ A,B,Db,D,E,Ab,A
Bells King Island:   ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells Magic Hour   D/ F A C D E F A 
Bells Mixolydian    D/ A B D E F# G A
Bells Protus           D/ A Bb C D E F A
Bells Rufinus         D/ G# C C# D# F F# G#
Bells Suddha         D/ A Bb C D F G A
Bells Olympos:      D/ G#,C,C#,F,G,G#,C,C#
Bells Paradiso 2    D/ F# G A D E F# A
Bells Paradiso       D/ F# A C# D E F# A
Bells Ragadesh:    D/ A,C,D,Gb,G,A,C,D
Bells Spyner:         ยังไม่ทราบแน่ชัด
Bells                     G / D,D#,F#,G,A,A#


ราคาและการสั่งซื้อ

  • ราคา : 1,900 EUR โดยประมาณ 
  • ปัจจุบัน Luis  หยุดรับ waiting list แล้ว เนื่องจากคำสั่งซื้อเดิมมีถึง 1000 ชิ้น  คาดว่าเขาจะเปิดรับ waiting list ใหม่ เมื่อผลิตเสร็จเรียบร้อย


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • ถ้าพบคำว่า izquierda ต่อท้าย Sound model ของbells  คำนี้หมายความว่า โน้ตจะมีการเรียงตัวแบบ left hand orientation สำหรับผู้ที่ถนัดมือซ้ายโดยเฉพาะ



ข้อมูลเพิ่มเติม

http://www.bellart.es
http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=4&sid=193a08356cdca89c695dbeb03ab6e5cd

Pantheon Steel Halo / Halo / อเมริกา





ฮาโล (Halo) คือเครื่องดนตรีที่ผลิตโดย Pantheon Steel  โดยความร่วมมือของชาวอเมริกัน2คน คือ Kyle Cox (นักดนตรี, ศิลปินที่เคยผลิต Steelpan มาก่อน) และ Jim Dustin(นักวิศวกรรม) จากเมือง Farmington รัฐ Missouri เริ่มผลิตขึ้นในปี 2006 ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทแรกที่เริ่มผลิตแฮนแพนอย่างจริงจังต่อจาก Panart ผู้คิดค้น
Kyle Cox และ Halo

Pantheon Steel กล่าวว่าการผลิตฮาโลนั้นไม่ใช่การลอกเลียนแบบมาจากฮัง แต่เป็นการสร้างให้เกิดเสียงและคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและเสียงที่มีพลัง โดยผู้ผลิตใช้คำว่า  "A soulful and rich timbre of its own, one capable of a powerful sonic experience unlike any other." 


ฮาโลนั้นมีให้เลือกในหลายสเกลเช่นกัน และได้รับการต้อนรับในหมู่ผู้นิยมแฮนแพนอย่างล้นหลามเนื่องจากเสียงที่อ่อนหวาน และรูปลักษณ์ที่สวยงามแข็งแรง  

ข้อมูลทางบริษัทกล่าวว่าเหล็กที่ใช้มีการผ่านกระบวนการ Heat oxidation (เป็นกระบวนการให้ความร้อนแก่เหล็กที่ต่างจากการ Nitriding แต่ให้ผลเหมือนกันคือทำให้ผิวของโลหะแข็งขึ้น) แล้วเคลือบด้วยน้ำมันที่ปราศจากสารพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีการทำสีลงบนวัสดุแต่อย่างใด  

ปัจจุบันผลิตออกมาแล้วสามรุ่นซึ่งมีเสียง ding แตกต่างกันคือ

  1. Halo Genesis  คืแฮนแพนรุ่นแรกของฮาโลที่ให้เสียงที่ต่ำและลึกกว่าฮัง (ที่เสียง ding ส่วนใหญ่อยู่ที่โทน D) แต่ Halo Genesis นั้นสร้างเสียง ding ด้วยเสียง B หรือ C จึงนับได้ว่าเป็น บาริโทนแห่งแฮนแพนก็ว่าได้  
  2. Halo Stratus มีเสียง ding อยู่ในระดับ ALto  ที่ F# and G 
  3. Halo Cirrus  มีเสียง ding ที่  Eb and E


Sound model  

ในแต่ละรุ่น มีเสกลที่ต่างกันมากมาย โดยมีโน้ตตั้งแต่ 7-11 เสียงต่างๆกัน สามารถฟังเสียงทดลองและอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่  http://www.pantheonsteel.com/SoundModels.aspx


โดยปัจจุบันรุ่นที่ยังทำการผลิตอยู่มีดังนี้

Halo Genesis 
 Aegean

  • Aegean                      (C) E G B C E F# G B
  • Aegis aka Aegean7 (C) E G B C E F# G
  • Dark Aegean             (B) E G B C E F# G B
Ake Bono
  • Ake Bono 7 in B       (B) E F# G B C E F#
  • Ake Bono 7 in C       (C) F G Ab C Db F G
Celtic Minor                        (B) F# A B C# D E F#

Da Xiong Diao 
  • Big Bear                   (C) F G Bb C D Eb G
  • Big Bear in B           (B) E F# A B C# D F#
  • Da Xiong Diao  aka DXD (C) F G Bb C D Eb F G
Dashvara                            (C) F G B C D F G

Golden Gate 
  • Golden Dawn  (C) F# G B C D F# G
  • Golden Gate    (C) E G B C D F# G
  • Copperfield      (C) E G B C D F# G B
  • Spindrift            (C) E G B C D F# G
Harmonic Minor          (C) F Ab Bb C Db E F G

Hijaz
  • Hijaz in C          (C) G Ab B C D Eb F G
  • Hijaz prototype aka Djinn   (C) G Ab Bb C Db E F G
Iwato
  • Iwato 7 (B) F# G B C E F# G
  • Iwato    (B) F# G B C E F# G B



ขนาด 
  • มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่คือ กว้าง 58 cm. สูง 22 cm. หนักประมาณ 6.35 กิโลกรัม



ราคาและวิธีการสั่งซื้อ 

  • ราคาขายเมื่อแรกผลิตเคยอยู่ที่ประมาณ1,800 USD
  • ราคาขายปี 2014 อยู่ที่ 2,000-2500 USD (~ 81,000 บาท / ราคาในebay เคยสูงถึงประมาณ150,000 บาท)
  • ต้องสมัครเป็นสมาชิกของ Pantheon Steel เพื่อลงชื่อใน Mailist ซึ่งนานๆครั้ง Pantheon จะทำการจับสลากรายชื่อผู้โชคดีที่จะมีสิทธิ์สั่งซื้อ  โดยปัจจุบัน บริษัทสามารถผลิต Haloได้ประมาณ 200-300 ชิ้นต่อปีเท่านั้น (ชื่อในmailist ปัจจุบันมีประมาณ14,000 ชื่อแล้ว)
  • ด้วยน้ำหนักที่มากอาจส่งผลต่อค่าขนส่งที่มากขึ้นด้วย

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย


  • Halo ทุกชิ้นจะมี Serial number จารึกไว้ด้วย
  • ปัจจุบันไม่รับทำเสกลตามสั่ง
ที่ร้านออนไลน์ของ มี Accessories, อุปกรณ์ดูแลรักษาเช่น FrogLube และ เครื่องมือต่างๆสำหรับผู้ที่อยากทำแฮนแพนด้วยตัวเอง ขายด้วย เช่น
  • Halo Helmet steel hardshells, Hard case และ Soft case
  • Shell สำเร็จรูปทั้งแบบ Raw(ไม่ผ่านความร้อน)และ Heat treat (ผ่านความร้อนแต่ไม่ได้ระบุว่าด้วยกระบวนการไนไตร์ดหรือไม่) 
  • ฆ้อนแบบต่างๆ เช่น air hammers, custom hand hammer เป็นต้น





http://www.pantheonsteel.com 

http://store.pantheonsteel.com
http://www.handpan.org/forum/viewforum.php?f=3